หลังจากที่รูปเกมดูกระท่อนกระแท่น หลังจากที่เสีย คริสเตียน อิริกเซ่น ไป รวมถึงใบแดงของ คาเซมิโร่ ช่วงหลังนี่เหมือนผู้เล่นคนอื่นๆจะเริ่มปรับตัวได้แล้ว รวมถึงการปรับแท็กติกของกุนซือหัวใสอีกด้วย ทั้งก่อนเกมและในระหว่างเกม

จากแมตช์กลางสัปดาห์ที่เล่นกับ บาร์เซโลนา ใน ยูโรป้าลีก กองกลางตัวรับทีมชาติบราซิลก็ได้ฤกษ์ออกโรงกลับมาช่วยทีมได้สักที หลังจากชดใช้โทษแบนใน ‘สงครามกุหลาบ’ ไปถึง 2 นัด

แน่นอนว่ามีจังหวะที่พลาดจนทำให้ทีมเสียประตูอยู่ แต่การกลับมาของมิดฟิลด์รายนี้ช่วยทีมได้ค่อนข้างเยอะในแง่ของความเก๋าเกม โดยผลเสมอ 2-2 ที่ คัมป์นู ถือว่าน่าพอใจมากสำหรับผมนะ

กลับมาที่นัดล่าสุดที่เพิ่งถล่ม เลสเตอร์ ซิตี้ ไปได้ 3-0 รูปเกมช่วงแรกนี่บอกได้เลยว่า ‘โคตรอึดอัด’ ผู้มาเยือนทำได้ดีมากๆในการบุกกดใส่แนวรับของ แมนฯ ยูไนเต็ด แต่ก็ได้ ‘หลวงพี่เด’ ดาวิด เด เกอา เซฟสวยๆเอาไว้ได้ 2-3 หน พอมาได้ประตูขึ้นนำในนาทีที่ 25 จาก มาร์คัส แรชฟอร์ด ที่ตอนนี้เอาอะไรมาฉุดก็หยุดไม่อยู่แล้ว ทุกอย่างก็เริ่มผ่อนคลายมากขึ้น

จนได้ประตูที่ 2 จากดาวยิงคนดีคนเดิม และเม็ดสุดท้ายจาก เจดอน ซานโช่ จบลงแบบชิวๆ แม้ว่าควรจะมีประตูที่ 4 ที่ 5 ตามมาก็ตาม แต่ไม่เป็นไรหรอก เพราะได้ 3 แต้ม บวกกับรูปเกมที่เราทำได้ดี ก็โอเคแล้ว

ชัยชนะที่มีเหนือ ‘จิ้งจอกสยาม’ นี่ทำให้เรารักษาระดับความมั่นใจเอาไว้ได้เยอะเลยทีเดียว ก่อนที่เราจะไปสู้กันต่อกับ บาร์ซ่า ในเลก 2 ของ ยูโรป้าลีก รอบเพลย์ออฟ รวมถึง นัดชิงชนะเลิศ คาราบาวคัพ

แน่นอนว่าตอนนี้ ‘ผีแดง’ ยังมีลุ้นในทุกรายการที่ได้ลงแข่งขันทั้ง 4 รายการ ใน พรีเมียร์ลีก ก็จี้จ่าฝูง อาร์เซนอล เหลือ 5 แต้มแล้ว ยูโรป้าลีก ก็ไปวัดกันที่ โอลด์ แทรฟฟอร์ด คืนวันพฤหัสบดีนี้ ว่าจะได้ไปต่อไหม เอฟเอคัพ ก็รอไปชนกับ เวสต์แฮม ต้นเดือนหน้า และในถ้วยที่เราเหลือเพียงอีกแค่ก้าวเดียวอย่าง ลีกคัพ

ถือว่าเป็นผลงานที่ยอดเยี่ยมมากของ เอริก เทน ฮาก ที่สามารถพาทีมที่ดูไม่มีทรงในซีซั่นที่แล้ว ยกระดับขึ้นมามีลุ้นในทุกๆรายการที่ลงแข่งขัน แม้ว่าฤดูกาลนี้เพิ่งจะผ่านครึ่งทางมาได้ไม่เท่าไรก็ตาม แต่การที่พาทีมมาถึงนัดชิงได้ตั้งแต่ฤดูกาลแรกที่เข้ามาคุมทีมได้ ก็นับว่ายอดเยี่ยมมาก

แม้ว่าใครจะแซว ลีกคัพ เป็น ถ้วยมิกกี้เม้าส์ ถ้วยน้ำจิ้ม หรือถ้วยอะไรก็ตาม แต่นาทีนี้ แฟนๆ ‘เร้ด เดวิล’ ได้ถ้วยนี้มา ก็ขอเฮไว้ก่อนล่ะครับ